แนะนำเกม ไทแรนส์
แนะนำเกม ไทแรนส์
อ้างอิงจาก sabre.exteen
สวัสดีครับ เซเบอร์อีกแล้ว ' w')/
หลายๆท่านอาจจะแปลกใจว่าทำไมวันนี้ไม่โทโฮ ก็ไม่ต้องแปลกใจไปหรอกครับ
เพราะด้วยคติที่ว่า "จงแบ่งปันสิ่งดีๆแก่ผู้อื่น"
วันนี้จึงมีเกมดีๆมานำเสนอครับ ^ ^
มันเป็นเกมการ์ดบน Facebook ที่มีชื่อเสียงพอสมควร
นามของมันคือ
https://apps.facebook.com/tyrantgame/
ลักษณะของเกมก็คล้ายการ์ดเกมทั่วไปครับ
นั่นคือ
สะสมการ์ด และทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้า (ฮา)
จุดเด่นซึ่งเป็นข้อดีของมันมีอยู่หลายอย่าง
เช่น
งานภาพที่สวยงามและไม่มักง่าย
ระบบการเล่นที่เข้าใจง่าย
ความสามารถอันหลากหลาย
การทำสงครามอันแสนดุเดือด
ฯลฯ
ส่วนข้อด้อยของมันก็คือ
การที่มันเป็นเกมบน Facebook นั่นเอง
ทำให้ตัวเกมมี Energy มาคอยจำกัดจำเขี่ยเวลาในการเล่นของเราพอสมควร
แถม Energy ที่ว่าก็ดันเต็มเร็วอีกต่างหาก ทำให้คนที่ไม่มีเวลาเปิดเนทบ่อยๆอาจเสียโอกาสได้ง่าย
แต่ถ้าใครมีมือถือหรือ Tablet ที่เปิดเนทเล่นแฟลชได้ ก็คงสบายหายห่วงไปเลย
! เอาล่ะ เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า !
ก่อนอื่นต้องขออธิบายลักษณะการเล่นของเกมก่อนดีกว่า
เดี๋ยวอ่านส่วนต่อๆไปแล้วจะงงเอาได้
1. เลือก Commander (ฮีโร่) เป็นผู้นำของเด็ค
2. เลือกทหารหรือการ์ดสนับสนุนใส่ลงไปในเด็ค สามารถใส่ได้มากถึง 10 ใบ
3. เลือกเด็ค แล้วนำไปทำศึกต่างๆ
4. ฝ่ายสั่งโจมตี จะได้เริ่มลงการ์ดก่อน
5. เริ่มเกมจั่วการ์ดมา 3 ใบ เราเลือกการ์ด 1 ใบส่งลงสนาม แล้วทหารจะทำการต่อสู้โดยอัตโนมัติกับทหารข้าศึกที่อยู่ตรงกับตัวเอง
6. หากตั้ง Auto เอาไว้ ตัวเกมจะเลือกการ์ดใบแรกที่จั่วได้ลงไปในสนามเสมอ เล่นได้ไวขึ้น แต่ก็เสี่ยงแพ้มากขึ้น
7. หาก Commander ของฝ่ายใดพลังชีวิตหมด จะถือว่าฝ่ายนั้นแพ้
8. หากฝ่ายโจมตีไม่สามารถโค่นฝ่ายป้องกันได้ภายใน 50 Turn จะถือว่าฝ่ายโจมตีแพ้
ทีนี้มาดูหน้าจอกันเลย
เมื่อเข้าสู่เกม ก็จะพบกับหน้าจอหลักของเกม ดังภาพข้างล่างนี้
มาไล่ดูไปทีละส่วนเลยนะครับ ^ ^)
ด้านบนสุดของหน้าจอ
1. Gold ค่าเงินมาตรฐานของเกมนี้ สามารถหาได้จากการต่อสู้ทุกรูปแบบ ยกเว้นใน Arena
2. War Bonds ค่าเงินระดับสูงของเกมนี้ สามารถหาได้จากการเปิดกล่องประจำวัน หรือซื้อด้วยเงินจริง
3. Buy More ! ช่องทางในการซื้อ War Bonds (จากนี้ไปขอย่อว่า WB)
4. Earn More ! ช่องทางในการหา WB ฟรีๆ เช่น ซื้อสินค้าหรือทำแบบสอบถามแล้วได้ WB เป็นต้น
5. Level แสดงเลเวล ณ ปัจจุบันของผู้เล่น เมื่อผู้เล่นเลเวลอัพ ผู้เล่นจะได้รับการเติมค่า Energy และ Stamina จนเต็ม
6. EXP ค่าประสบการณ์ของผู้เล่น เมื่อสะสมจนครบก็จะเลเวลอัพ
7. Energy ค่าพลังงานที่ต้องจ่ายในการทำกิจกรรมต่างๆในเกม เช่น ทำภารกิจ ล่าบอส ค่านี้จะเพิ่มขึ้น 1 ทุก 1 นาที
8. Stamina ค่าพลังงานพิเศษที่ใช้ในการทำสงคราม ค่านี้จะเพิ่มขึ้น 1 ทุก 1 นาที
ซึ่งด้านหน้าของข้อ 7. และ 8. นี้จะมีปุ่ม Refill โผล่มาเป็นบางเวลา
สามารถกดเพื่อจ่าย WB แล้วเติม Energy หรือ Stamina จนเต็มได้ แต่ขอบอกว่าไม่มีความคุ้มค่าแม้แต่น้อย ควรหลีกเลี่ยงปุ่มนี้อย่างที่สุดครับ
9. Music เปิด/ปิดเพลงประกอบเกม
10. Sound Effect เปิด/ปิดเสียงประกอบ
11. Auto เปิด/ปิดการเล่นแบบอัตโนมัติ
12. แถบปุ่มหน้าจอ
ประกอบด้วย Home / Missions / Arena / Store / Factions / Raids
ซึ่งจะขออธิบายไปทีละหน้าจอ ดังนี้
Home
หน้าจอหลักของตัวเกม ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
1. Decks แสดงเด็คของเราที่มีอยู่ ช่องจัดเด็คจะเพิ่มขึ้นเมื่อเลเวลอัพถึงระดับที่ต้องการ
2. News ข่าวสารที่ทางผู้สร้างแปะไว้ ส่วนมากจะเป็นโฆษณาลดราคาการ์ด Promotion ที่เพิ่งออกใหม่
3. Archievements แสดงเงื่อนไขต่างๆที่มีอยู่ในเกม หากทำตามจนสำเร็จ ก็จะได้รับรางวัล ซึ่งบางชิ้นดีมากอย่างคาดไม่ถึงเลยทีเดียว
(เงื่อนไขและรางวัลทั้งหมด ตรวจสอบได้ที่ วิกิของเกมนี้)
4. Reputation แสดงค่าชื่อเสียง ซึ่งได้มาจากการถล่ม Mission ต่างๆ และเมื่อสะสมถึงระดับ จะปลดล็อคการ์ดในร้านค้าได้
5. Friends รายชื่อเพื่อนที่เล่นเกมเดียวกัน สามารถกดเข้าไปเพื่อดูข้อมูลการ์ดของเพื่อนได้
6. Send Gifts ส่งของขวัญให้เพื่อน... น่าเสียดายที่ส่วนใหญ่เป็นการ์ดไร้สาระ
7. Invite Friends ส่งลิงค์ไปชวนเพื่อนมาเล่นเกมนี้
Missions
หน้าจอแสดงแผนที่โลก ซึ่งจะมีมิชชั่นต่างๆให้เราได้เลือกถล่ม
แถบด้านล่าง จะแสดงแผนที่แต่ละส่วน
แถบด้านข้าง จะแสดงมิชชั่นที่มีให้ทำในแผนที่ส่วนนั้นๆ
โดยเราสามารถกดเล่นมิชชั่นได้ทั้งบนภาพแผนที่ใหญ่ และที่แถบด้านข้าง
Arena
สถานที่สำหรับต่อสู้กับเด็คของผู้เล่นอื่น
การต่อสู้ใน Arena นี้ไม่เสีย Energy หรือ Stamina แต่อย่างใด
เป้าหมายของการเล่นใน Arena หลักๆจะมีอยู่สองอย่างคือ ทดสอบเด็คของตัวเอง และเพิ่มค่า Arena Rating
หากสะสมค่า Arena Rating จนถึงระดับที่ต้องการ จะสามารถปลดล็อคการ์ดใหม่ๆในร้านค้าได้
หากต่อสู้กับคนที่มีค่า Rating สูงกว่า ต่อให้แพ้ก็จะไม่เสียค่า Rating และถ้าชนะก็จะได้ค่า Rating กลับมาเยอะ
ในทางกลับกัน หากสู้กับคนที่ Rating ต่ำกว่าแล้วดันแพ้ เราก็จะยิ่งเสียค่า Rating เยอะ และถึงชนะก็ได้น้อย
ความสำคัญที่แท้จริงของ Arena ก็คือ
มันเป็นจุดที่เราใช้แต่งตั้งว่าจะใช้เด็คใดเป็นเด็คโจมตี (Active) และเด็คใดเป็นเด็คกันบ้านในยามศึก (Defense)
อนึ่ง, การแต่งตั้งเด็คโจมตีสามารถทำได้ง่ายๆโดยการเลือกเด็คที่หน้า Home แล้วจะถือว่าเป็น Active Deck ทันที
ความผิดพลาดที่พบกันบ่อยคือ ปรับแต่งเด็คป้องกันเสร็จแล้วดันเอาไปโจมตีซะงั้น
ดังนั้นอย่าลืมเลือกเด็คให้ดีๆก่อนนำไปใช้นะครับ ^ ^)
*Update*
ปัจจุบันมีการเพิ่มปุ่ม Fight ที่บริเวณด้านล่างของจุดเปลี่ยนเด็ค Active/Defense
สามารถใช้ปุ่มนี้เพื่อเอาเด็ค Active ของตัวเอง มาตีกับเด็ค Defense ของตัวเองได้
ทำให้สามารถทดสอบเด็คได้ดีเป็นอย่างยิ่ง
Store
ร้านขายการ์ดภายในเกม
1. Packs ซื้อซองการ์ด ซึ่งตอนนี้มี 5 แบบ ได้แก่
- Bronze การ์ดจาก Standard Set ในซองประกอบด้วยการ์ด Common 6 ใบ
- Silver การ์ดจาก Standard Set ในซองประกอบด้วยการ์ด Common 4 ใบ และ Uncommon 2 ใบ
- Gold การ์ดจาก Standard Set ในซองประกอบด้วยการ์ด Common 3 ใบ และ Uncommon 2 ใบ และ Rare 1 ใบ
- Enclave การ์ดจาก Enclave Set ในซองประกอบด้วยการ์ด Common 3 ใบ และ Uncommon 2 ใบ และ Rare 1 ใบ
- Nexus การ์ดจาก Nexus Set ในซองประกอบด้วยการ์ด Common 3 ใบ และ Uncommon 2 ใบ และ Rare 1 ใบ
2. Sell ขายการ์ดที่เรามีอยู่ แลกกับ Gold นิดๆหน่อยๆ ส่วนใหญ่ขายแล้วไม่คุ้ม ยกเว้นการ์ดระดับ Exceptional
3. Rewards การ์ดที่สามารถปลดล็อคได้จากสิ่งต่างๆในเกม ได้แก่ Arena Rating / Reputation / Faction / ล่าบอส
4. Elite ปลดล็อคโดยการสะสม 60 wb แล้วสมัครเป็น Elite จากนั้นจะมีการ์ดสุ่มมาให้เลือกซื้อทุก 3 ชั่วโมง
Factions
หรือที่เรียกกันง่ายๆว่า กิลด์ นั่นเอง
ก่อนอื่นเราต้องมองหา Faction ที่เราสนใจ แล้วกดคลิกเข้าไป จะเป็นการ "ส่งใบสมัคร" ให้แก่เจ้าหน้าที่ในแฟคชั่นนั้นๆครับ
หรือไม่ก็ให้สมาชิกของแฟคชั่นนั้นแจกลิงค์เชิญชวนออกมา พอกดลิงค์นั้นก็จะเป็นการส่งใบสมัคร
หลังจากนั้นผู้เล่นที่เป็นเจ้าหน้าที่ก็จะมาตรวจสอบ แล้วตัดสินใจว่าจะรับเข้าแฟคชั่นหรือไม่
หรือถ้าทุนหนา ก็อาจจะตั้งแฟคชั่นของตัวเองขึ้นมาก็ได้ครับ
เมื่อเข้าสู่ระบบ Faction แล้วก็จะมีเมนูดังนี้ครับ
1. Info ดูข้อมูลโดยรวมของแฟคชั่น และของตัวเราเองที่มีต่อแฟคชั่น ดังนี้
- Level ของแฟคชั่น เพิ่มขึ้นเมื่อสะสม FP ถึงระดับที่ต้องการ
- FP หรือก็คือ Faction Rating ซึ่งจะได้มาจากการชนะสงคราม
- Activity ใช้บ่งบอกว่าวันนี้มีสมาชิกในแฟคชั่นเข้ามาเล่นคิดเป็น % เท่าใด
- Members แสดงจำนวนสมาชิกในแฟคชั่น ซึ่งจะมีค่าสูงสุดเพิ่มขึ้นตามเลเวลของแฟคชั่น
- Loyalty ค่านี้บ่งบอกว่าเราสั่งโจมตีเพื่อแฟคชั่นไปแล้วทั้งหมดกี่ครั้ง ถ้ามีค่านี้น้อยๆ อาจโดนไล่ออกจากแฟคชั่นได้
-
2. Chat เป็นระบบแชทภายในเกม ข้อเสียคือพิมพ์ไทยไม่ได้ พิมพ์สัญลักษณ์ไม่ได้
3. Wars ห้องทำสงคราม แบ่งเป็นสามส่วนย่อย ได้แก่
- Active Wars แสดงถึงสงครามที่กำลังรบราฆ่าฟันกันอยู่
- War Records แสดงถึงประวัติการทำสงครามของแฟคชั่น
- Find Rivals ค้นหาแฟคชั่นอื่นเพื่อประกาศสงคราม โดยจะค้นหาเจอเฉพาะแฟคชั่นที่เลเวลต่างจากเราไม่เกิน 1 เท่านั้น
4. Members แสดงรายชื่อสมาชิก พร้อมเลเวลและ Loyalty ของแต่ละคน สามารถกดดูการ์ดได้ และหัวหน้าสามารถเลื่อนยศให้ลูกน้องได้
ยศในแฟคชั่นมีสามระดับ ได้แก่ Member / Officer / Leader
Member รับคนเข้าแฟคชั่นได้ / Officer ประกาศสงครามได้ / Leader สามารถเลื่อนยศให้ลูกน้องได้
5. Applicants แสดงใบสมัครที่มีคนยื่นเอาไว้
6. Rankings แสดงรายชื่อแฟคชั่นที่ติดอันดับ Top 100 ของเกม
Raids
ระบบล่าบอสคล้ายกับเกม Casyle Age
ต่างกันตรงที่ เมื่อเราสั่งตี แทนที่จะคำนวณความเสียหายเลย เรากลับต้องเอาเด็คไปตีกับเด็คบอสซะงั้น
ซึ่งเด็คของบอสนั้นโกงมากๆ (ย้ำ) ถ้าไม่จัดเด็คมาดักทางจริงๆ โอกาสชนะจะต่ำมาก จึงไม่เหมาะสำหรับผู้เล่นเริ่มต้นอย่างที่สุด
ต้องจ่าย 25 Energy ในการสั่งเปิด Raid จากนั้นเราสามารถขอความช่วยเหลือจากคนอื่นเพื่อให้มาช่วยยำบอสได้
มีเวลาจำกัดประมาณ 6-72 ชั่วโมง และบอสก็ค่อนข้างอึดทีเดียว ดังนั้นจึงจำเป็นต้องใช้คนเยอะสักหน่อย ถึงจะโค่นบอสได้
หากโค่นบอสไม่ได้ ทุกคนจะไม่ได้อะไรเลย แต่หากชนะได้ ทุกคนจะได้ค่า Raid Point (ต้องกด Claim Reward ที่หน้าจอ Raid ด้วย)
ซึ่งค่า Raid Point นี้ใช้ปลดล็อคการ์ดใหม่ๆในร้านค้านั่นเอง ซึ่งมีการ์ดหลายใบที่...โกง !
ทีนี้ก็มาว่ากันที่เรื่องของการ์ด
วิธีการอ่านการ์ด
มุมซ้ายบน = สัญลักษณ์บอกชนิดการ์ด และระดับความหายาก (ดำ=Common / ขาว=Uncommon / ทอง=Rare / ม่วง =Exceptional)
บน = ชื่อการ์ด
ขวาบน = ระยะเวลาร่าย : การ์ดจะเริ่มทำงานเมื่อร่ายจบ
กลาง = ระบุเผ่า และอาจระบุลักษณะพิเศษของการ์ด เช่น Unique หมายถึง ใส่ได้แค่ใบเดียวในเด็ค
กลางซ้าย = ระบุสกิลที่การ์ดใบนี้มีอยู่
กลางขวา = ระบุว่าการ์ดใบนี้มาจาก Set ใด
ได้แก่ Standard (ลูกโลก) / Enclave (จานหมุน) / Nexus (สามเหลี่ยม) / Reward (โล่) / Promotion (ธงแขวน)
ซ้ายล่าง = พลังโจมตี
ขวาล่าง = พลังชีวิต
ชนิดของการ์ด
แบ่งเป็น 4 ชนิด ได้แก่
1. Commander : สัญลักษณ์รูปคน เป็นการ์ดผู้นำของเด็ค คอยใช้สกิลทุกเทิร์น โดยไม่ต้องร่าย
2. Assault : สัญลักษณ์รูปปืนใหญ่ เป็นทหารของเด็ค จะเริ่มโจมตีและใช้สกิลเมื่อร่ายเสร็จแล้วเท่านั้น
3. Structure : สัญลักษณ์รูปหอคอย เป็นสิ่งก่อสร้างอยู่แนวหลังของกองทัพ ยากแก่การทำลาย และเมื่อร่ายจบจะเริ่มใช้สกิลออกมา
4. Action : สัญลักษณ์รูปแสงระเบิด เป็นท่าไม้ตาย(?) เมื่อกดใช้ จะแสดงผลทันทีโดยไม่ต้องร่าย
เผ่าต่างๆในเกม
1. Imperial : สีน้ำเงิน ; จุดเด่นอยู่ที่การฟื้นพลังชีวิตและร่ายเร็ว ข้อเสียคือทหารส่วนใหญ่ค่อนข้างบอบบาง
2. Raider : สีน้ำตาล ; จุดเด่นอยู่ที่การเสริมพลังและเกราะหนา ข้อเสียคือไม่ค่อยมีสกิลแปลกๆ
3. BloodThirsty : สีแดง ; จุดเด่นอยู่ที่การดูดเลือดและลดความสามารถข้าศึก ข้อเสียคืออ่อนแอด้านอากาศยาน
4. Xeno : สีดำ ; จุดเด่นอยู่ที่อากาศยานอันแข็งแกร่งและสกิลอันแปลกประหลาด ข้อเสียคือร่ายนาน
5. สีเทา ; ไม่ได้สังกัดเผ่าใดๆ ตอนนี้พบได้เฉพาะใน Action Card เท่านั้น
สวัสดีครับ เซเบอร์อีกแล้ว ' w')/
หลายๆท่านอาจจะแปลกใจว่าทำไมวันนี้ไม่โทโฮ ก็ไม่ต้องแปลกใจไปหรอกครับ
เพราะด้วยคติที่ว่า "จงแบ่งปันสิ่งดีๆแก่ผู้อื่น"
วันนี้จึงมีเกมดีๆมานำเสนอครับ ^ ^
มันเป็นเกมการ์ดบน Facebook ที่มีชื่อเสียงพอสมควร
นามของมันคือ
https://apps.facebook.com/tyrantgame/
ลักษณะของเกมก็คล้ายการ์ดเกมทั่วไปครับ
นั่นคือ
สะสมการ์ด และทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้า (ฮา)
จุดเด่นซึ่งเป็นข้อดีของมันมีอยู่หลายอย่าง
เช่น
งานภาพที่สวยงามและไม่มักง่าย
ระบบการเล่นที่เข้าใจง่าย
ความสามารถอันหลากหลาย
การทำสงครามอันแสนดุเดือด
ฯลฯ
ส่วนข้อด้อยของมันก็คือ
การที่มันเป็นเกมบน Facebook นั่นเอง
ทำให้ตัวเกมมี Energy มาคอยจำกัดจำเขี่ยเวลาในการเล่นของเราพอสมควร
แถม Energy ที่ว่าก็ดันเต็มเร็วอีกต่างหาก ทำให้คนที่ไม่มีเวลาเปิดเนทบ่อยๆอาจเสียโอกาสได้ง่าย
แต่ถ้าใครมีมือถือหรือ Tablet ที่เปิดเนทเล่นแฟลชได้ ก็คงสบายหายห่วงไปเลย
! เอาล่ะ เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า !
ก่อนอื่นต้องขออธิบายลักษณะการเล่นของเกมก่อนดีกว่า
เดี๋ยวอ่านส่วนต่อๆไปแล้วจะงงเอาได้
1. เลือก Commander (ฮีโร่) เป็นผู้นำของเด็ค
2. เลือกทหารหรือการ์ดสนับสนุนใส่ลงไปในเด็ค สามารถใส่ได้มากถึง 10 ใบ
3. เลือกเด็ค แล้วนำไปทำศึกต่างๆ
4. ฝ่ายสั่งโจมตี จะได้เริ่มลงการ์ดก่อน
5. เริ่มเกมจั่วการ์ดมา 3 ใบ เราเลือกการ์ด 1 ใบส่งลงสนาม แล้วทหารจะทำการต่อสู้โดยอัตโนมัติกับทหารข้าศึกที่อยู่ตรงกับตัวเอง
6. หากตั้ง Auto เอาไว้ ตัวเกมจะเลือกการ์ดใบแรกที่จั่วได้ลงไปในสนามเสมอ เล่นได้ไวขึ้น แต่ก็เสี่ยงแพ้มากขึ้น
7. หาก Commander ของฝ่ายใดพลังชีวิตหมด จะถือว่าฝ่ายนั้นแพ้
8. หากฝ่ายโจมตีไม่สามารถโค่นฝ่ายป้องกันได้ภายใน 50 Turn จะถือว่าฝ่ายโจมตีแพ้
ทีนี้มาดูหน้าจอกันเลย
เมื่อเข้าสู่เกม ก็จะพบกับหน้าจอหลักของเกม ดังภาพข้างล่างนี้
มาไล่ดูไปทีละส่วนเลยนะครับ ^ ^)
ด้านบนสุดของหน้าจอ
1. Gold ค่าเงินมาตรฐานของเกมนี้ สามารถหาได้จากการต่อสู้ทุกรูปแบบ ยกเว้นใน Arena
2. War Bonds ค่าเงินระดับสูงของเกมนี้ สามารถหาได้จากการเปิดกล่องประจำวัน หรือซื้อด้วยเงินจริง
3. Buy More ! ช่องทางในการซื้อ War Bonds (จากนี้ไปขอย่อว่า WB)
4. Earn More ! ช่องทางในการหา WB ฟรีๆ เช่น ซื้อสินค้าหรือทำแบบสอบถามแล้วได้ WB เป็นต้น
5. Level แสดงเลเวล ณ ปัจจุบันของผู้เล่น เมื่อผู้เล่นเลเวลอัพ ผู้เล่นจะได้รับการเติมค่า Energy และ Stamina จนเต็ม
6. EXP ค่าประสบการณ์ของผู้เล่น เมื่อสะสมจนครบก็จะเลเวลอัพ
7. Energy ค่าพลังงานที่ต้องจ่ายในการทำกิจกรรมต่างๆในเกม เช่น ทำภารกิจ ล่าบอส ค่านี้จะเพิ่มขึ้น 1 ทุก 1 นาที
8. Stamina ค่าพลังงานพิเศษที่ใช้ในการทำสงคราม ค่านี้จะเพิ่มขึ้น 1 ทุก 1 นาที
ซึ่งด้านหน้าของข้อ 7. และ 8. นี้จะมีปุ่ม Refill โผล่มาเป็นบางเวลา
สามารถกดเพื่อจ่าย WB แล้วเติม Energy หรือ Stamina จนเต็มได้ แต่ขอบอกว่าไม่มีความคุ้มค่าแม้แต่น้อย ควรหลีกเลี่ยงปุ่มนี้อย่างที่สุดครับ
9. Music เปิด/ปิดเพลงประกอบเกม
10. Sound Effect เปิด/ปิดเสียงประกอบ
11. Auto เปิด/ปิดการเล่นแบบอัตโนมัติ
12. แถบปุ่มหน้าจอ
ประกอบด้วย Home / Missions / Arena / Store / Factions / Raids
ซึ่งจะขออธิบายไปทีละหน้าจอ ดังนี้
Home
หน้าจอหลักของตัวเกม ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
1. Decks แสดงเด็คของเราที่มีอยู่ ช่องจัดเด็คจะเพิ่มขึ้นเมื่อเลเวลอัพถึงระดับที่ต้องการ
2. News ข่าวสารที่ทางผู้สร้างแปะไว้ ส่วนมากจะเป็นโฆษณาลดราคาการ์ด Promotion ที่เพิ่งออกใหม่
3. Archievements แสดงเงื่อนไขต่างๆที่มีอยู่ในเกม หากทำตามจนสำเร็จ ก็จะได้รับรางวัล ซึ่งบางชิ้นดีมากอย่างคาดไม่ถึงเลยทีเดียว
(เงื่อนไขและรางวัลทั้งหมด ตรวจสอบได้ที่ วิกิของเกมนี้)
4. Reputation แสดงค่าชื่อเสียง ซึ่งได้มาจากการถล่ม Mission ต่างๆ และเมื่อสะสมถึงระดับ จะปลดล็อคการ์ดในร้านค้าได้
5. Friends รายชื่อเพื่อนที่เล่นเกมเดียวกัน สามารถกดเข้าไปเพื่อดูข้อมูลการ์ดของเพื่อนได้
6. Send Gifts ส่งของขวัญให้เพื่อน... น่าเสียดายที่ส่วนใหญ่เป็นการ์ดไร้สาระ
7. Invite Friends ส่งลิงค์ไปชวนเพื่อนมาเล่นเกมนี้
Missions
หน้าจอแสดงแผนที่โลก ซึ่งจะมีมิชชั่นต่างๆให้เราได้เลือกถล่ม
แถบด้านล่าง จะแสดงแผนที่แต่ละส่วน
แถบด้านข้าง จะแสดงมิชชั่นที่มีให้ทำในแผนที่ส่วนนั้นๆ
โดยเราสามารถกดเล่นมิชชั่นได้ทั้งบนภาพแผนที่ใหญ่ และที่แถบด้านข้าง
Arena
สถานที่สำหรับต่อสู้กับเด็คของผู้เล่นอื่น
การต่อสู้ใน Arena นี้ไม่เสีย Energy หรือ Stamina แต่อย่างใด
เป้าหมายของการเล่นใน Arena หลักๆจะมีอยู่สองอย่างคือ ทดสอบเด็คของตัวเอง และเพิ่มค่า Arena Rating
หากสะสมค่า Arena Rating จนถึงระดับที่ต้องการ จะสามารถปลดล็อคการ์ดใหม่ๆในร้านค้าได้
หากต่อสู้กับคนที่มีค่า Rating สูงกว่า ต่อให้แพ้ก็จะไม่เสียค่า Rating และถ้าชนะก็จะได้ค่า Rating กลับมาเยอะ
ในทางกลับกัน หากสู้กับคนที่ Rating ต่ำกว่าแล้วดันแพ้ เราก็จะยิ่งเสียค่า Rating เยอะ และถึงชนะก็ได้น้อย
ความสำคัญที่แท้จริงของ Arena ก็คือ
มันเป็นจุดที่เราใช้แต่งตั้งว่าจะใช้เด็คใดเป็นเด็คโจมตี (Active) และเด็คใดเป็นเด็คกันบ้านในยามศึก (Defense)
อนึ่ง, การแต่งตั้งเด็คโจมตีสามารถทำได้ง่ายๆโดยการเลือกเด็คที่หน้า Home แล้วจะถือว่าเป็น Active Deck ทันที
ความผิดพลาดที่พบกันบ่อยคือ ปรับแต่งเด็คป้องกันเสร็จแล้วดันเอาไปโจมตีซะงั้น
ดังนั้นอย่าลืมเลือกเด็คให้ดีๆก่อนนำไปใช้นะครับ ^ ^)
*Update*
ปัจจุบันมีการเพิ่มปุ่ม Fight ที่บริเวณด้านล่างของจุดเปลี่ยนเด็ค Active/Defense
สามารถใช้ปุ่มนี้เพื่อเอาเด็ค Active ของตัวเอง มาตีกับเด็ค Defense ของตัวเองได้
ทำให้สามารถทดสอบเด็คได้ดีเป็นอย่างยิ่ง
Store
ร้านขายการ์ดภายในเกม
1. Packs ซื้อซองการ์ด ซึ่งตอนนี้มี 5 แบบ ได้แก่
- Bronze การ์ดจาก Standard Set ในซองประกอบด้วยการ์ด Common 6 ใบ
- Silver การ์ดจาก Standard Set ในซองประกอบด้วยการ์ด Common 4 ใบ และ Uncommon 2 ใบ
- Gold การ์ดจาก Standard Set ในซองประกอบด้วยการ์ด Common 3 ใบ และ Uncommon 2 ใบ และ Rare 1 ใบ
- Enclave การ์ดจาก Enclave Set ในซองประกอบด้วยการ์ด Common 3 ใบ และ Uncommon 2 ใบ และ Rare 1 ใบ
- Nexus การ์ดจาก Nexus Set ในซองประกอบด้วยการ์ด Common 3 ใบ และ Uncommon 2 ใบ และ Rare 1 ใบ
2. Sell ขายการ์ดที่เรามีอยู่ แลกกับ Gold นิดๆหน่อยๆ ส่วนใหญ่ขายแล้วไม่คุ้ม ยกเว้นการ์ดระดับ Exceptional
3. Rewards การ์ดที่สามารถปลดล็อคได้จากสิ่งต่างๆในเกม ได้แก่ Arena Rating / Reputation / Faction / ล่าบอส
4. Elite ปลดล็อคโดยการสะสม 60 wb แล้วสมัครเป็น Elite จากนั้นจะมีการ์ดสุ่มมาให้เลือกซื้อทุก 3 ชั่วโมง
Factions
หรือที่เรียกกันง่ายๆว่า กิลด์ นั่นเอง
ก่อนอื่นเราต้องมองหา Faction ที่เราสนใจ แล้วกดคลิกเข้าไป จะเป็นการ "ส่งใบสมัคร" ให้แก่เจ้าหน้าที่ในแฟคชั่นนั้นๆครับ
หรือไม่ก็ให้สมาชิกของแฟคชั่นนั้นแจกลิงค์เชิญชวนออกมา พอกดลิงค์นั้นก็จะเป็นการส่งใบสมัคร
หลังจากนั้นผู้เล่นที่เป็นเจ้าหน้าที่ก็จะมาตรวจสอบ แล้วตัดสินใจว่าจะรับเข้าแฟคชั่นหรือไม่
หรือถ้าทุนหนา ก็อาจจะตั้งแฟคชั่นของตัวเองขึ้นมาก็ได้ครับ
เมื่อเข้าสู่ระบบ Faction แล้วก็จะมีเมนูดังนี้ครับ
1. Info ดูข้อมูลโดยรวมของแฟคชั่น และของตัวเราเองที่มีต่อแฟคชั่น ดังนี้
- Level ของแฟคชั่น เพิ่มขึ้นเมื่อสะสม FP ถึงระดับที่ต้องการ
- FP หรือก็คือ Faction Rating ซึ่งจะได้มาจากการชนะสงคราม
- Activity ใช้บ่งบอกว่าวันนี้มีสมาชิกในแฟคชั่นเข้ามาเล่นคิดเป็น % เท่าใด
- Members แสดงจำนวนสมาชิกในแฟคชั่น ซึ่งจะมีค่าสูงสุดเพิ่มขึ้นตามเลเวลของแฟคชั่น
- Loyalty ค่านี้บ่งบอกว่าเราสั่งโจมตีเพื่อแฟคชั่นไปแล้วทั้งหมดกี่ครั้ง ถ้ามีค่านี้น้อยๆ อาจโดนไล่ออกจากแฟคชั่นได้
-
2. Chat เป็นระบบแชทภายในเกม ข้อเสียคือพิมพ์ไทยไม่ได้ พิมพ์สัญลักษณ์ไม่ได้
3. Wars ห้องทำสงคราม แบ่งเป็นสามส่วนย่อย ได้แก่
- Active Wars แสดงถึงสงครามที่กำลังรบราฆ่าฟันกันอยู่
- War Records แสดงถึงประวัติการทำสงครามของแฟคชั่น
- Find Rivals ค้นหาแฟคชั่นอื่นเพื่อประกาศสงคราม โดยจะค้นหาเจอเฉพาะแฟคชั่นที่เลเวลต่างจากเราไม่เกิน 1 เท่านั้น
4. Members แสดงรายชื่อสมาชิก พร้อมเลเวลและ Loyalty ของแต่ละคน สามารถกดดูการ์ดได้ และหัวหน้าสามารถเลื่อนยศให้ลูกน้องได้
ยศในแฟคชั่นมีสามระดับ ได้แก่ Member / Officer / Leader
Member รับคนเข้าแฟคชั่นได้ / Officer ประกาศสงครามได้ / Leader สามารถเลื่อนยศให้ลูกน้องได้
5. Applicants แสดงใบสมัครที่มีคนยื่นเอาไว้
6. Rankings แสดงรายชื่อแฟคชั่นที่ติดอันดับ Top 100 ของเกม
Raids
ระบบล่าบอสคล้ายกับเกม Casyle Age
ต่างกันตรงที่ เมื่อเราสั่งตี แทนที่จะคำนวณความเสียหายเลย เรากลับต้องเอาเด็คไปตีกับเด็คบอสซะงั้น
ซึ่งเด็คของบอสนั้นโกงมากๆ (ย้ำ) ถ้าไม่จัดเด็คมาดักทางจริงๆ โอกาสชนะจะต่ำมาก จึงไม่เหมาะสำหรับผู้เล่นเริ่มต้นอย่างที่สุด
ต้องจ่าย 25 Energy ในการสั่งเปิด Raid จากนั้นเราสามารถขอความช่วยเหลือจากคนอื่นเพื่อให้มาช่วยยำบอสได้
มีเวลาจำกัดประมาณ 6-72 ชั่วโมง และบอสก็ค่อนข้างอึดทีเดียว ดังนั้นจึงจำเป็นต้องใช้คนเยอะสักหน่อย ถึงจะโค่นบอสได้
หากโค่นบอสไม่ได้ ทุกคนจะไม่ได้อะไรเลย แต่หากชนะได้ ทุกคนจะได้ค่า Raid Point (ต้องกด Claim Reward ที่หน้าจอ Raid ด้วย)
ซึ่งค่า Raid Point นี้ใช้ปลดล็อคการ์ดใหม่ๆในร้านค้านั่นเอง ซึ่งมีการ์ดหลายใบที่...โกง !
ทีนี้ก็มาว่ากันที่เรื่องของการ์ด
วิธีการอ่านการ์ด
มุมซ้ายบน = สัญลักษณ์บอกชนิดการ์ด และระดับความหายาก (ดำ=Common / ขาว=Uncommon / ทอง=Rare / ม่วง =Exceptional)
บน = ชื่อการ์ด
ขวาบน = ระยะเวลาร่าย : การ์ดจะเริ่มทำงานเมื่อร่ายจบ
กลาง = ระบุเผ่า และอาจระบุลักษณะพิเศษของการ์ด เช่น Unique หมายถึง ใส่ได้แค่ใบเดียวในเด็ค
กลางซ้าย = ระบุสกิลที่การ์ดใบนี้มีอยู่
กลางขวา = ระบุว่าการ์ดใบนี้มาจาก Set ใด
ได้แก่ Standard (ลูกโลก) / Enclave (จานหมุน) / Nexus (สามเหลี่ยม) / Reward (โล่) / Promotion (ธงแขวน)
ซ้ายล่าง = พลังโจมตี
ขวาล่าง = พลังชีวิต
ชนิดของการ์ด
แบ่งเป็น 4 ชนิด ได้แก่
1. Commander : สัญลักษณ์รูปคน เป็นการ์ดผู้นำของเด็ค คอยใช้สกิลทุกเทิร์น โดยไม่ต้องร่าย
2. Assault : สัญลักษณ์รูปปืนใหญ่ เป็นทหารของเด็ค จะเริ่มโจมตีและใช้สกิลเมื่อร่ายเสร็จแล้วเท่านั้น
3. Structure : สัญลักษณ์รูปหอคอย เป็นสิ่งก่อสร้างอยู่แนวหลังของกองทัพ ยากแก่การทำลาย และเมื่อร่ายจบจะเริ่มใช้สกิลออกมา
4. Action : สัญลักษณ์รูปแสงระเบิด เป็นท่าไม้ตาย(?) เมื่อกดใช้ จะแสดงผลทันทีโดยไม่ต้องร่าย
เผ่าต่างๆในเกม
1. Imperial : สีน้ำเงิน ; จุดเด่นอยู่ที่การฟื้นพลังชีวิตและร่ายเร็ว ข้อเสียคือทหารส่วนใหญ่ค่อนข้างบอบบาง
2. Raider : สีน้ำตาล ; จุดเด่นอยู่ที่การเสริมพลังและเกราะหนา ข้อเสียคือไม่ค่อยมีสกิลแปลกๆ
3. BloodThirsty : สีแดง ; จุดเด่นอยู่ที่การดูดเลือดและลดความสามารถข้าศึก ข้อเสียคืออ่อนแอด้านอากาศยาน
4. Xeno : สีดำ ; จุดเด่นอยู่ที่อากาศยานอันแข็งแกร่งและสกิลอันแปลกประหลาด ข้อเสียคือร่ายนาน
5. สีเทา ; ไม่ได้สังกัดเผ่าใดๆ ตอนนี้พบได้เฉพาะใน Action Card เท่านั้น
Admin- Admin
- Posts : 1399
Join date : 22/05/2009
Age : 33
game
Troops: 999999999999
WW troops: 999
Population: 999
Re: แนะนำเกม ไทแรนส์
สกิลต่างๆในเกม
แบ่งได้เป็น 6 หมวด ได้แก่
Activation Skill
จะเริ่มใช้ออกมาก็ต่อเมื่อร่ายเสร็จแล้วเท่านั้น
Heal X : สุ่มฟื้นพลังชีวิต X ให้กับพรรคพวกหนึ่งตัวที่ได้รับบาดเจ็บ
Strike X : สุ่มยิงความเสียหาย X ใส่ศัตรูหนึ่งตัว
Siege X : สุ่มทำความเสียหาย X แก่สิ่งก่อสร้างของศัตรู
Rally X : สุ่มเพิ่มพลังโจมตีให้กับพรรคพวกหนึ่งตัวเป็นเวลา 1 เทิร์น
Weaken X : สุ่มลดพลังโจมตีใส่ศัตรูหนึ่งตัวเป็นเวลา 1 เทิร์น
Jam : สุ่มทำให้ศัตรูหนึ่งตัวไม่สามารถโจมตีและไม่สามารถใช้สกิลได้เลยเป็นเวลา 1 เทิร์น
Mimic : สุ่มศัตรูหนึ่งตัว แล้วลอกเลียนแบบสกิลของศัตรูตัวนั้นหนึ่งสกิล, สกิลที่ลอกเลียนมาจะไม่จำกัดเผ่า, ไม่สามารถลอกเลียนสกิล Mimic ได้
Repair X : สุ่มฟื้นพลังชีวิต X ให้กับสิ่งก่อสร้างของฝ่ายเราหนึ่งชิ้น
Split : แตกตัวเพิ่มจำนวนไปไว้ที่ด้านขวาสุดของสนาม
Enfeeble X : สุ่มทำให้ศัตรูหนึ่งตัวได้รับความเสียหายเพิ่มขึ้น X เมื่อได้รับความเสียหายใดๆ
Defensive Skill
Armored X : ลดความเสียหาย X ที่ศัตรูโจมตีเข้ามา
Counter X : หากได้รับความเสียหายจากการโจมตี จะทำให้ศัตรูตัวนั้นได้รับความเสียหาย X
Flying : มีโอกาส 50% ที่จะหลบการโจมตีของศัตรูได้
Regenerate X : เมื่อตาย, จะมีโอกาส 50% ที่จะคืนชีพโดยมีพลังชีวิต X
Wall : รับความเสียหายแทน Commander
Payback : เมื่อถูกเล็งเป้าด้วย Activation Skill (ยกเว้น Mimic) จะมีโอกาส 50% ที่จะใช้สกิลนั้นกลับใส่ผู้ใช้เสียเอง
Combat-Modifiers Skill
Anti-Air X : โจมตีโดนศัตรูที่มีสกิล Flying เสมอ และทำความเสียหายเพิ่มอีก X
Pierce X : ลดความสามารถของสกิล Armored ของศัตรูลง X หน่วย
Fear : โจมตีใส่ Commander โดยตรง โดยไม่ทำอันตรายต่อทหารศัตรูที่อยู่ตรงหน้า
Valor X : ทำความเสียหายเพิ่มขึ้น X เมื่อทำความเสียหายแก่ศัตรูได้สำเร็จ ในขณะที่ข้าศึกมีจำนวนเยอะกว่า
Swipe : ทำการโจมตีกราดใส่ศัตรูที่อยู่ข้างๆเป้าหมายทั้งซ้ายและขวาข้างละหนึ่งตัวด้วย
Damage-Dependent Skill
Immobilize : เมื่อทำความเสียหายแก่ศัตรูได้ มีโอกาส 50% ที่จะทำให้ศัตรูตัวนั้นไม่สามารถโจมตีได้ (แต่ยังใช้สกิลได้) เป็นเวลา 1 เทิร์น
Leech X : ฟื้นพลังชีวิตแก่ตัวเองเท่าความเสียหายที่ทำแก่ศัตรู แต่ไม่เกินค่า X
Poison X : เมื่อทำความเสียหายแก่ศัตรูได้ ศัตรูจะติดพิษ, เมื่อเริ่มเทิร์นของศัตรู ศัตรูตัวนั้นจะได้รับความเสียหาย X
Crush X : เมื่อทำลายศัตรูได้ จะทำความเสียหาย X แก่ Commander ของศัตรู
Siphon X : ฟื้นพลังชีวิตแก่ Commander ของตัวเองเท่าความเสียหายที่ทำแก่ศัตรู แต่ไม่เกินค่า X
Destroyed Skill
Backfire X : เมื่อการ์ดใบนี้ถูกทำลาย จะสร้างความเสียหาย X แก่ Commander
Untyped Skill
Evade : มีโอกาส 50% ที่จะหลบ Activation Skill ของศัตรูได้
Flurry X : มีโอกาส 50% ที่จะโจมตีซ้ำอีก X ครั้ง
สกิลหลายสกิลในเกมนี้อาจมีคำต่อท้าย เช่น
Heal Raider แสดงว่า สกิลนี้จะแสดงผลใส่เผ่า Raider เท่านั้น
Strike All แสดงว่าสกิลนี้จะแสดงผลใส่เป้าหมายทุกตัวในคราวเดียว
Weaken All Xeno แสดงว่า สกิลนี้จะแสดงผลใส่เผ่า Xeno ทุกตัวในคราวเดียว
แต่หากสกิลเหล่านี้ถูก Mimic จะไม่มีการคิดคำนวณเรื่องเผ่า
เช่น หากสกิล Weaken All Xeno ถูกลอกเลียนแบบ จะกลายเป็น Weaken All เท่านั้น
และสกิล Mimic สามารถลอกเลียนแบบศัตรูที่ยังร่ายไม่เสร็จได้
ดังนั้นยิ่งฝ่ายตรงข้ามใช้สกิลโหด (และร่ายนาน) เท่าไหร่ ก็จะยิ่งเข้าทาง Mimic มากขึ้นเท่านั้น
คำแนะนำในการจัดเด็คเบื้องต้น
เกมนี้ให้อิสระแก่ผู้เล่นอย่างเต็มที่ในการจัดเด็ค
สามารถใช้ Commander ของเผ่าใด เข้ากับทหารของเผ่าใดก็ได้
จะใส่การ์ดแค่ตัวเดียว หรือใส่เต็มสิบ หรือไม่ใส่เลยก็ได้
แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นเกมการ์ด ย่อมหมายความว่าเราไม่สามารถใส่การ์ดลงไปมั่วๆแล้วจะชนะได้
ดังนั้นจะขอแนะนำวิธีการจัดเด็ค ซึ่งหลักๆแล้วจะแบ่งได้เป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ คือ
1. เด็คดักทาง
ก็สมตามชื่อของมันครับ คือจัดมาเพื่อดักทางล้วนๆ
ศัตรูใช้เผ่า Xeno ? งั้นเราก็ใช้การ์ดที่เล่นงาน Xeno อย่างเจาะจง
ศัตรูใช้ Strike เยอะมาก ? งั้นเราก็ใช้ Mimic หรือ Evade สิ
ศัตรูใช้สกิล Siege ? งั้นเราก็ไม่ต้องใส่การ์ด Structure มา
อะไรประมาณนั้น
สิ่งที่ไม่ควรลืมคำนึงถึงก็คือ ระยะเวลาในการร่าย
เพราะหากเด็คเราร่ายช้าเกินไป อาจถูกศัตรูถล่มจนตายหมดโดยไม่ทันได้ทำอะไรเลยก็ได้
หากต้องการใช้เด็คร่ายนาน ควรมั่นใจว่าศัตรูไม่สามารถถล่มเราจนพินาศก่อนร่ายจบได้
ซึ่งอาจใช้การ์ด Action มาช่วยแก้ปัญหาในจุดนี้ได้
2. เด็คหลัก
เนื่องจากในการทำสงคราม Faction นั้นเราไม่สามารถทราบได้เลยว่าจะถูกจับคู่ให้ตีกับใคร และใช้เด็คอะไร
ดังนั้นเด็คหลักจึงเป็นเด็คที่ควรจะต่อสู้กับทุกเด็คได้อย่างสมบุกสมบัน
ซึ่งเด็คหลักนี้ก็ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของแต่ละคนว่าจะสร้างออกมายังไง
ตัวอย่างที่เห็นได้บ่อยๆก็เช่น ร่ายเร็ว+Rally , ร่ายเร็ว+Strike , ร่ายนาน+ดูดเลือด+ฮีล , ร่ายนาน+อัดหนัก+สกิลโหด ฯลฯ
หรืออาจจะผสมผสานเพื่อให้รับมือกับเด็คศัตรูได้ทุกรูปแบบ เป็นต้น
สิ่งที่ไม่ควรลืมคำนึงถึงก็คือ ระยะเวลาในการร่าย
เพราะหากเด็คเราร่ายช้าเกินไป อาจถูกศัตรูถล่มจนตายหมดโดยไม่ทันได้ทำอะไรเลยก็ได้
หากต้องการใช้เด็คร่ายนาน ควรมั่นใจว่าศัตรูไม่สามารถถล่มเราจนพินาศก่อนร่ายจบได้
ซึ่งอาจใช้การ์ด Action มาช่วยแก้ปัญหาในจุดนี้ได้
3. เด็คกันบ้าน
ในการทำสงครามนั้น เมื่อข้าศึกสั่งโจมตี จะถูกสุ่มว่าจะได้สู้กับใครเช่นกัน ซึ่งเด็คที่จะใช้ตั้งรับก็คือ Defense Deck ที่เราตั้งไว้นั่นเอง
และในการกันบ้านนั้น เราไม่จำเป็นต้องทำลายกองทัพของศัตรให้พินาศก็ได้ แค่รอให้ครบ 50 Turn ก็ถือว่าชนะเช่นกัน
ดังนั้นเด็คกันบ้านจึงมักจะต่างไปจากเด็คทั่วไป เช่น
เน้น Counter , เน้น Structure , เน้น Active Card , เน้น Strike , เน้น Mimic ฯลฯ
บางทีอาจมีการผสมผสานกันระหว่างเด็คที่กล่าวไปข้างต้น เพื่อให้คู่ต่อสู้รับมือยากขึ้น
แต่ในระดับ Faction นั้นอาจมีการนัดกันจัดเด็คกันบ้าน เช่น นาย A ใช้เด็ค Counter นาย B ใช้เด็ค Structure นาย C ใช้เด็ค Strike ฯลฯ
ทั้งนี้เพราะหากใช้เด็คแบบเดียวกันทั้ง Faction ก็จะถูกคู่ต่อสู้จัดเด็คดักทางมาถล่มได้โดยง่าย
กลยุทธ์เบื้องต้นในการตอบโต้เด็คต่างๆ
Heal X : ใช้สกิลจำพวก Strike หรือ Rally ในการถล่มศัตรูให้ตายในคราวเดียว หรืออย่างน้อยก็ทำให้มันฮีลไม่ทัน
นอกจากนี้อาจใช้สกิลจำพวก Jam หรือ Immobilize เพื่อยับยั้งการ Heal ของศัตรู
Strike X : ใช้สกิลจำพวก Evade หรือ Mimic ในการตอบโต้ให้พวกมันโดนยิงเสียเอง
Siege X : ไม่ต้องใช้ Structure ในเด็ค
Rally X : ใช้เด็คร่ายเร็ว ทำลายศัตรูก่อนที่มันจะใช้สกิล หรือใช้สกิลจำพวก Flying เพื่อให้มีโอกาสรอดตายมากขึ้น
Weaken X : ใช้ทหารที่มีพลังโจมตีสูง หรือใช้สกิล Rally เพื่อเพิ่มพลังโจมตีให้กลับมา
อนึ่ง, ทหารที่มีพลังโจมตี 0 จะไม่โดนสกิล Weaken , หากใช้คู่กับสกิล Rally ก็จะได้พลังโจมตีตามนั้นอย่างแน่นอน
Jam : ใช้เด็คร่ายเร็ว ทำลายศัตรูก่อนที่มันจะใช้สกิล เนื่องจากสกิล Jam มักอยู่กับการ์ดที่ร่ายนาน
Mimic : ใช้สกิลที่ศัตรูไม่สามารถเลียนแบบได้ เช่น ดูดเลือด ร่วมกับการใช้ทหารที่มีพลังโจมตีสูง
หรือใช้การ์ด Structure กับ Action เนื่องจาก Mimic ไม่สามารถเลียนแบบการ์ดแนวหลังได้
Repair X : มีสองทางคือ เน้น Siege อย่างรุนแรงให้มันซ่อมไม่ทัน หรือไม่ต้องสนใจแล้วรีบฆ่า Commander ของมันเลย
Split : ใช้เด็คร่ายเร็วหรือเด็คพลังโจมตีสูง หรือ Strike , Jam , Immobilize , Mimic ฯลฯ
Enfeeble X : ใช้สกิลจำพวก Weaken ผสานกับ Armor เพื่อไม่ให้ได้รับบาดเจ็บ แล้วสกิลนี้จะเป็นหมันไปเอง
หรืออาจใช้พวก Evade หรือ Payback ในการตอบโต้
Armored X : ใช้สกิล Strike หรือ Counter หรือ Poison เนื่องจาก Armored ไม่ลดความเสียหายจากสกิลเหล่านี้
นอกนั้นอาจเป็นการใช้ Pierce หรือ Rally อัดให้หนักพอจะทะลุเกราะไปซะเลย (ฮา)
Counter X : เน้นใช้ Strike ในการทำลายทหารจำพวกนี้ หรือใช้ Heal ในการสนับสนุน
Flying : ใช้ Anti-Air หรือ Strike ก็จะจัดการได้ง่ายขึ้น หรือใช้กองทัพ Flying ที่แข็งแกร่งกว่าจัดการมันซะก่อนเลย
Regenerate X : ไม่มีวิธีรับมือเป็นพิเศษ อาจใช้ Flurry ในการฆ่าอย่างต่อเนื่อง แล้วหวังให้มันตายๆไปซะ = _=)"
Wall : สกิล Siege สามารถทำลายการ์ดจำพวกนี้ได้ หรืออาจใช้เด็คที่ร่ายเร็วในการทำลายการ์ดจำพวกนี้
Payback : ใช้สกิลที่ศัตรูไม่สามารถเลียนแบบได้ เช่น ดูดเลือด ร่วมกับการใช้ทหารที่มีพลังโจมตีสูง
Anti-Air X : ไม่ต้องใส่ตัว Flying มาก็เรียบร้อย (ฮา)
Pierce X : ไม่ต้องใส่ตัว Armored มาก็เรียบร้อย (ฮา)
Fear : อะไรก็ได้ที่สามารถฆ่าเจ้าพวกนี้ได้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ หรือเอาการ์ดที่มีสกิล Wall มารับความเสียหายแทนได้
Valor X : เน้นการใช้งาน Structure และ Action ให้มากขึ้น หรือใช้ Weaken และ/หรือ Armor เพื่อให้มันอัดไม่เข้า
Swipe : ส่วนใหญ่จะมีพลังโจมตีต่ำ อาจใช้ Weaken และ Armor ในการต้านทานได้
Immobilize : สกิล Weaken หรือ Armored ที่หนาพอจะป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายได้ ทำให้สกิลนี้เป็นหมันทันที
หรืออาจใช้สกิล Strike ในการทำลายศัตรู เนื่องจากมันสกัดการโจมตีเท่านั้น ไม่ได้สกัดการใช้สกิล
Leech X : ใช้สกิลจำพวก Strike หรือ Rally ในการถล่มศัตรูให้ตายในคราวเดียว หรืออย่างน้อยก็ทำให้มันฮีลไม่ทัน
นอกจากนี้อาจใช้สกิลจำพวก Jam หรือ Immobilize เพื่อให้ศัตรูไม่ได้โจมตี มันก็จะดูดเลือดเราไม่ได้
Poison X : สกิล Weaken หรือ Armored ที่หนาพอจะป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายได้ ทำให้สกิลนี้เป็นหมันทันที
Crush X : ไม่มีวิธีรับมือ แค่ฆ่ามันให้ตายก่อน หรือพยายามฮีลให้เราไม่ตายเป็นใช้ได้
Siphon X : ไม่ต้องไปสนใจ เดี๋ยวฆ่ามันได้ Commander ของมันก็จะเป็นรายต่อไป (ฮา)
Backfire X : มีสองทางคือ เน้น Siege อย่างรุนแรงให้มันพังดดยเร็วที่สุด หรือไม่ต้องสนใจแล้วรีบฆ่า Commander ของมันเลย
Evade : มีสองทางคือ เน้นใช้สกิลถล่มมันให้หนัก หรือไม่สนใจ แล้วใช้พลังโจมตีที่รุนแรงถล่มมันไปเลย
Flurry X : อะไรก็ได้ที่สามารถฆ่าเจ้าพวกนี้ได้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
คำแนะนำในการใช้ War Bonds
เรื่องนี้สำคัญมาก จึงต้องขอแนะนำสักเล็กน้อย
1. อย่าใช้ Refill เพราะไม่คุ้มเลยสักนิด
2. อย่ารีบซื้อการ์ด Promotion ให้สะสมจนกว่าจะครบ 60 WB
3. สะสมครบ 60 WB แล้วนำไปสมัคร Elite มันจะให้ 120 WB กลับมา จากนั้นค่อยเอาไปชอปปิ้งตามใจชอบ(?)
การใช้ WB หลังจากสมัคร Elite
มีสองทางเลือกคือ
1. ซื้อซอง Nexus : จะได้การ์ดมาหลายใบ และมีโอกาสได้การ์ดระดับ Exceptional แต่ ไม่รู้ว่าจะได้การ์ดอะไรมาบ้างเนี่ยสิ
2. ซื้อการ์ดจาก Elite ในร้านค้า : ได้การ์ดที่ต้องการแน่นอน แต่ได้แค่ใบเดียว ในราคาเท่าๆกับซอง Nexus
ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละท่านครับ
โดยส่วนตัว จากที่เล่นมานานพบว่า การ์ดใบที่ควรหาเอาไว้ คือ
commander Yurich ซึ่งมีความสามารถในการ Heal All Raider (1 ใบ)
assault Colossus ร่าย 3 ตี 2 เลือด 5 สกิล Evade และ Counter 2 (4-5 ใบ)
ซึ่งการ์ดกลุ่มนี้สามารถนำมาใช้สร้างเด็คกันบ้านได้เป็นอย่างดี โดยใช้ร่วมกับการ์ด Structure หรือ Action
สาเหตุก็เพราะ Colossus เป็นตัว Counter ที่มีความอึด และดันมีสกิล Evade
ทั้งๆที่วิธีรับมือพวก Counter คือการใช้ Strike แต่มันดันหลบได้ซะนี่ แล้วดันมีฮีลจาก Yurich อีก = _=)"
คำแนะนำสำหรับผู้เริ่มต้น
เพื่อให้สามารถเติบโตได้ไวเหมือนใช้ยาเร่ง จึงมีข้อแนะนำนิดหน่อยครับ
คือ เมื่อเก็บเงินได้ถึงประมาณ 1,000 -2,000 gold แล้ว
ให้ไปที่ Arena แล้วสู้จน Rating เพิ่มถึง 100 จากนั้นก็ไปที่ร้านค้าตรงห้อง Reward แล้วซื้อ Sawblade มาสัก 8-10 ตัว
จากนั้นจัดเด็คที่ใส่เฉพาะ Sawblade และอาจเติมการ์ดสนับสนุนเฉพาะทางลงไป เช่น Strike Raider หรือ Strike Bloodthirsty
เพียงเท่านี้ก็สามารถลุย Mission ในช่วงแรกได้อย่างสบายๆครับ
เพราะเผ่า Raider มันเน้น Armored แต่ Sawblade นั้นร่ายเร็วมาก และ Pierce ได้รุนแรงมาก
แต่ถ้าเจอเผ่า Bloodthirsty ก็อาจต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เล็กน้อย
Mission ที่หาเงินได้คล่องที่สุด ก็คือ Mission 33 ซึ่งมีแต่ Raider ล้วนๆ
แถม HP ของทหารแต่ละตัวคือ 1 , 2 , 4 , 6 ซึ่งเทียบกับเวลาร่ายแล้ว = ถูก Sawblade ฆ่าตายก่อนพอดี
แต่ถ้าโชคร้าย เจอตัวบินตั้งแต่แรก แล้วอัดมันไม่โดนสักที ก็อาจจะแพ้ได้ครับ
อืม... โดยทั่วไปก็ค่อนข้างครบครันแล้ว
ที่เหลือก็ต้องลองเล่นเองแล้วล่ะครับ ^ ^)
ทีนี้ก็มาถึงจุดประสงค์ที่สองของบทความนี้ครับ งิงิ ' w')~
แบ่งได้เป็น 6 หมวด ได้แก่
Activation Skill
จะเริ่มใช้ออกมาก็ต่อเมื่อร่ายเสร็จแล้วเท่านั้น
Heal X : สุ่มฟื้นพลังชีวิต X ให้กับพรรคพวกหนึ่งตัวที่ได้รับบาดเจ็บ
Strike X : สุ่มยิงความเสียหาย X ใส่ศัตรูหนึ่งตัว
Siege X : สุ่มทำความเสียหาย X แก่สิ่งก่อสร้างของศัตรู
Rally X : สุ่มเพิ่มพลังโจมตีให้กับพรรคพวกหนึ่งตัวเป็นเวลา 1 เทิร์น
Weaken X : สุ่มลดพลังโจมตีใส่ศัตรูหนึ่งตัวเป็นเวลา 1 เทิร์น
Jam : สุ่มทำให้ศัตรูหนึ่งตัวไม่สามารถโจมตีและไม่สามารถใช้สกิลได้เลยเป็นเวลา 1 เทิร์น
Mimic : สุ่มศัตรูหนึ่งตัว แล้วลอกเลียนแบบสกิลของศัตรูตัวนั้นหนึ่งสกิล, สกิลที่ลอกเลียนมาจะไม่จำกัดเผ่า, ไม่สามารถลอกเลียนสกิล Mimic ได้
Repair X : สุ่มฟื้นพลังชีวิต X ให้กับสิ่งก่อสร้างของฝ่ายเราหนึ่งชิ้น
Split : แตกตัวเพิ่มจำนวนไปไว้ที่ด้านขวาสุดของสนาม
Enfeeble X : สุ่มทำให้ศัตรูหนึ่งตัวได้รับความเสียหายเพิ่มขึ้น X เมื่อได้รับความเสียหายใดๆ
Defensive Skill
Armored X : ลดความเสียหาย X ที่ศัตรูโจมตีเข้ามา
Counter X : หากได้รับความเสียหายจากการโจมตี จะทำให้ศัตรูตัวนั้นได้รับความเสียหาย X
Flying : มีโอกาส 50% ที่จะหลบการโจมตีของศัตรูได้
Regenerate X : เมื่อตาย, จะมีโอกาส 50% ที่จะคืนชีพโดยมีพลังชีวิต X
Wall : รับความเสียหายแทน Commander
Payback : เมื่อถูกเล็งเป้าด้วย Activation Skill (ยกเว้น Mimic) จะมีโอกาส 50% ที่จะใช้สกิลนั้นกลับใส่ผู้ใช้เสียเอง
Combat-Modifiers Skill
Anti-Air X : โจมตีโดนศัตรูที่มีสกิล Flying เสมอ และทำความเสียหายเพิ่มอีก X
Pierce X : ลดความสามารถของสกิล Armored ของศัตรูลง X หน่วย
Fear : โจมตีใส่ Commander โดยตรง โดยไม่ทำอันตรายต่อทหารศัตรูที่อยู่ตรงหน้า
Valor X : ทำความเสียหายเพิ่มขึ้น X เมื่อทำความเสียหายแก่ศัตรูได้สำเร็จ ในขณะที่ข้าศึกมีจำนวนเยอะกว่า
Swipe : ทำการโจมตีกราดใส่ศัตรูที่อยู่ข้างๆเป้าหมายทั้งซ้ายและขวาข้างละหนึ่งตัวด้วย
Damage-Dependent Skill
Immobilize : เมื่อทำความเสียหายแก่ศัตรูได้ มีโอกาส 50% ที่จะทำให้ศัตรูตัวนั้นไม่สามารถโจมตีได้ (แต่ยังใช้สกิลได้) เป็นเวลา 1 เทิร์น
Leech X : ฟื้นพลังชีวิตแก่ตัวเองเท่าความเสียหายที่ทำแก่ศัตรู แต่ไม่เกินค่า X
Poison X : เมื่อทำความเสียหายแก่ศัตรูได้ ศัตรูจะติดพิษ, เมื่อเริ่มเทิร์นของศัตรู ศัตรูตัวนั้นจะได้รับความเสียหาย X
Crush X : เมื่อทำลายศัตรูได้ จะทำความเสียหาย X แก่ Commander ของศัตรู
Siphon X : ฟื้นพลังชีวิตแก่ Commander ของตัวเองเท่าความเสียหายที่ทำแก่ศัตรู แต่ไม่เกินค่า X
Destroyed Skill
Backfire X : เมื่อการ์ดใบนี้ถูกทำลาย จะสร้างความเสียหาย X แก่ Commander
Untyped Skill
Evade : มีโอกาส 50% ที่จะหลบ Activation Skill ของศัตรูได้
Flurry X : มีโอกาส 50% ที่จะโจมตีซ้ำอีก X ครั้ง
สกิลหลายสกิลในเกมนี้อาจมีคำต่อท้าย เช่น
Heal Raider แสดงว่า สกิลนี้จะแสดงผลใส่เผ่า Raider เท่านั้น
Strike All แสดงว่าสกิลนี้จะแสดงผลใส่เป้าหมายทุกตัวในคราวเดียว
Weaken All Xeno แสดงว่า สกิลนี้จะแสดงผลใส่เผ่า Xeno ทุกตัวในคราวเดียว
แต่หากสกิลเหล่านี้ถูก Mimic จะไม่มีการคิดคำนวณเรื่องเผ่า
เช่น หากสกิล Weaken All Xeno ถูกลอกเลียนแบบ จะกลายเป็น Weaken All เท่านั้น
และสกิล Mimic สามารถลอกเลียนแบบศัตรูที่ยังร่ายไม่เสร็จได้
ดังนั้นยิ่งฝ่ายตรงข้ามใช้สกิลโหด (และร่ายนาน) เท่าไหร่ ก็จะยิ่งเข้าทาง Mimic มากขึ้นเท่านั้น
คำแนะนำในการจัดเด็คเบื้องต้น
เกมนี้ให้อิสระแก่ผู้เล่นอย่างเต็มที่ในการจัดเด็ค
สามารถใช้ Commander ของเผ่าใด เข้ากับทหารของเผ่าใดก็ได้
จะใส่การ์ดแค่ตัวเดียว หรือใส่เต็มสิบ หรือไม่ใส่เลยก็ได้
แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นเกมการ์ด ย่อมหมายความว่าเราไม่สามารถใส่การ์ดลงไปมั่วๆแล้วจะชนะได้
ดังนั้นจะขอแนะนำวิธีการจัดเด็ค ซึ่งหลักๆแล้วจะแบ่งได้เป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ คือ
1. เด็คดักทาง
ก็สมตามชื่อของมันครับ คือจัดมาเพื่อดักทางล้วนๆ
ศัตรูใช้เผ่า Xeno ? งั้นเราก็ใช้การ์ดที่เล่นงาน Xeno อย่างเจาะจง
ศัตรูใช้ Strike เยอะมาก ? งั้นเราก็ใช้ Mimic หรือ Evade สิ
ศัตรูใช้สกิล Siege ? งั้นเราก็ไม่ต้องใส่การ์ด Structure มา
อะไรประมาณนั้น
สิ่งที่ไม่ควรลืมคำนึงถึงก็คือ ระยะเวลาในการร่าย
เพราะหากเด็คเราร่ายช้าเกินไป อาจถูกศัตรูถล่มจนตายหมดโดยไม่ทันได้ทำอะไรเลยก็ได้
หากต้องการใช้เด็คร่ายนาน ควรมั่นใจว่าศัตรูไม่สามารถถล่มเราจนพินาศก่อนร่ายจบได้
ซึ่งอาจใช้การ์ด Action มาช่วยแก้ปัญหาในจุดนี้ได้
2. เด็คหลัก
เนื่องจากในการทำสงคราม Faction นั้นเราไม่สามารถทราบได้เลยว่าจะถูกจับคู่ให้ตีกับใคร และใช้เด็คอะไร
ดังนั้นเด็คหลักจึงเป็นเด็คที่ควรจะต่อสู้กับทุกเด็คได้อย่างสมบุกสมบัน
ซึ่งเด็คหลักนี้ก็ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของแต่ละคนว่าจะสร้างออกมายังไง
ตัวอย่างที่เห็นได้บ่อยๆก็เช่น ร่ายเร็ว+Rally , ร่ายเร็ว+Strike , ร่ายนาน+ดูดเลือด+ฮีล , ร่ายนาน+อัดหนัก+สกิลโหด ฯลฯ
หรืออาจจะผสมผสานเพื่อให้รับมือกับเด็คศัตรูได้ทุกรูปแบบ เป็นต้น
สิ่งที่ไม่ควรลืมคำนึงถึงก็คือ ระยะเวลาในการร่าย
เพราะหากเด็คเราร่ายช้าเกินไป อาจถูกศัตรูถล่มจนตายหมดโดยไม่ทันได้ทำอะไรเลยก็ได้
หากต้องการใช้เด็คร่ายนาน ควรมั่นใจว่าศัตรูไม่สามารถถล่มเราจนพินาศก่อนร่ายจบได้
ซึ่งอาจใช้การ์ด Action มาช่วยแก้ปัญหาในจุดนี้ได้
3. เด็คกันบ้าน
ในการทำสงครามนั้น เมื่อข้าศึกสั่งโจมตี จะถูกสุ่มว่าจะได้สู้กับใครเช่นกัน ซึ่งเด็คที่จะใช้ตั้งรับก็คือ Defense Deck ที่เราตั้งไว้นั่นเอง
และในการกันบ้านนั้น เราไม่จำเป็นต้องทำลายกองทัพของศัตรให้พินาศก็ได้ แค่รอให้ครบ 50 Turn ก็ถือว่าชนะเช่นกัน
ดังนั้นเด็คกันบ้านจึงมักจะต่างไปจากเด็คทั่วไป เช่น
เน้น Counter , เน้น Structure , เน้น Active Card , เน้น Strike , เน้น Mimic ฯลฯ
บางทีอาจมีการผสมผสานกันระหว่างเด็คที่กล่าวไปข้างต้น เพื่อให้คู่ต่อสู้รับมือยากขึ้น
แต่ในระดับ Faction นั้นอาจมีการนัดกันจัดเด็คกันบ้าน เช่น นาย A ใช้เด็ค Counter นาย B ใช้เด็ค Structure นาย C ใช้เด็ค Strike ฯลฯ
ทั้งนี้เพราะหากใช้เด็คแบบเดียวกันทั้ง Faction ก็จะถูกคู่ต่อสู้จัดเด็คดักทางมาถล่มได้โดยง่าย
กลยุทธ์เบื้องต้นในการตอบโต้เด็คต่างๆ
Heal X : ใช้สกิลจำพวก Strike หรือ Rally ในการถล่มศัตรูให้ตายในคราวเดียว หรืออย่างน้อยก็ทำให้มันฮีลไม่ทัน
นอกจากนี้อาจใช้สกิลจำพวก Jam หรือ Immobilize เพื่อยับยั้งการ Heal ของศัตรู
Strike X : ใช้สกิลจำพวก Evade หรือ Mimic ในการตอบโต้ให้พวกมันโดนยิงเสียเอง
Siege X : ไม่ต้องใช้ Structure ในเด็ค
Rally X : ใช้เด็คร่ายเร็ว ทำลายศัตรูก่อนที่มันจะใช้สกิล หรือใช้สกิลจำพวก Flying เพื่อให้มีโอกาสรอดตายมากขึ้น
Weaken X : ใช้ทหารที่มีพลังโจมตีสูง หรือใช้สกิล Rally เพื่อเพิ่มพลังโจมตีให้กลับมา
อนึ่ง, ทหารที่มีพลังโจมตี 0 จะไม่โดนสกิล Weaken , หากใช้คู่กับสกิล Rally ก็จะได้พลังโจมตีตามนั้นอย่างแน่นอน
Jam : ใช้เด็คร่ายเร็ว ทำลายศัตรูก่อนที่มันจะใช้สกิล เนื่องจากสกิล Jam มักอยู่กับการ์ดที่ร่ายนาน
Mimic : ใช้สกิลที่ศัตรูไม่สามารถเลียนแบบได้ เช่น ดูดเลือด ร่วมกับการใช้ทหารที่มีพลังโจมตีสูง
หรือใช้การ์ด Structure กับ Action เนื่องจาก Mimic ไม่สามารถเลียนแบบการ์ดแนวหลังได้
Repair X : มีสองทางคือ เน้น Siege อย่างรุนแรงให้มันซ่อมไม่ทัน หรือไม่ต้องสนใจแล้วรีบฆ่า Commander ของมันเลย
Split : ใช้เด็คร่ายเร็วหรือเด็คพลังโจมตีสูง หรือ Strike , Jam , Immobilize , Mimic ฯลฯ
Enfeeble X : ใช้สกิลจำพวก Weaken ผสานกับ Armor เพื่อไม่ให้ได้รับบาดเจ็บ แล้วสกิลนี้จะเป็นหมันไปเอง
หรืออาจใช้พวก Evade หรือ Payback ในการตอบโต้
Armored X : ใช้สกิล Strike หรือ Counter หรือ Poison เนื่องจาก Armored ไม่ลดความเสียหายจากสกิลเหล่านี้
นอกนั้นอาจเป็นการใช้ Pierce หรือ Rally อัดให้หนักพอจะทะลุเกราะไปซะเลย (ฮา)
Counter X : เน้นใช้ Strike ในการทำลายทหารจำพวกนี้ หรือใช้ Heal ในการสนับสนุน
Flying : ใช้ Anti-Air หรือ Strike ก็จะจัดการได้ง่ายขึ้น หรือใช้กองทัพ Flying ที่แข็งแกร่งกว่าจัดการมันซะก่อนเลย
Regenerate X : ไม่มีวิธีรับมือเป็นพิเศษ อาจใช้ Flurry ในการฆ่าอย่างต่อเนื่อง แล้วหวังให้มันตายๆไปซะ = _=)"
Wall : สกิล Siege สามารถทำลายการ์ดจำพวกนี้ได้ หรืออาจใช้เด็คที่ร่ายเร็วในการทำลายการ์ดจำพวกนี้
Payback : ใช้สกิลที่ศัตรูไม่สามารถเลียนแบบได้ เช่น ดูดเลือด ร่วมกับการใช้ทหารที่มีพลังโจมตีสูง
Anti-Air X : ไม่ต้องใส่ตัว Flying มาก็เรียบร้อย (ฮา)
Pierce X : ไม่ต้องใส่ตัว Armored มาก็เรียบร้อย (ฮา)
Fear : อะไรก็ได้ที่สามารถฆ่าเจ้าพวกนี้ได้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ หรือเอาการ์ดที่มีสกิล Wall มารับความเสียหายแทนได้
Valor X : เน้นการใช้งาน Structure และ Action ให้มากขึ้น หรือใช้ Weaken และ/หรือ Armor เพื่อให้มันอัดไม่เข้า
Swipe : ส่วนใหญ่จะมีพลังโจมตีต่ำ อาจใช้ Weaken และ Armor ในการต้านทานได้
Immobilize : สกิล Weaken หรือ Armored ที่หนาพอจะป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายได้ ทำให้สกิลนี้เป็นหมันทันที
หรืออาจใช้สกิล Strike ในการทำลายศัตรู เนื่องจากมันสกัดการโจมตีเท่านั้น ไม่ได้สกัดการใช้สกิล
Leech X : ใช้สกิลจำพวก Strike หรือ Rally ในการถล่มศัตรูให้ตายในคราวเดียว หรืออย่างน้อยก็ทำให้มันฮีลไม่ทัน
นอกจากนี้อาจใช้สกิลจำพวก Jam หรือ Immobilize เพื่อให้ศัตรูไม่ได้โจมตี มันก็จะดูดเลือดเราไม่ได้
Poison X : สกิล Weaken หรือ Armored ที่หนาพอจะป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายได้ ทำให้สกิลนี้เป็นหมันทันที
Crush X : ไม่มีวิธีรับมือ แค่ฆ่ามันให้ตายก่อน หรือพยายามฮีลให้เราไม่ตายเป็นใช้ได้
Siphon X : ไม่ต้องไปสนใจ เดี๋ยวฆ่ามันได้ Commander ของมันก็จะเป็นรายต่อไป (ฮา)
Backfire X : มีสองทางคือ เน้น Siege อย่างรุนแรงให้มันพังดดยเร็วที่สุด หรือไม่ต้องสนใจแล้วรีบฆ่า Commander ของมันเลย
Evade : มีสองทางคือ เน้นใช้สกิลถล่มมันให้หนัก หรือไม่สนใจ แล้วใช้พลังโจมตีที่รุนแรงถล่มมันไปเลย
Flurry X : อะไรก็ได้ที่สามารถฆ่าเจ้าพวกนี้ได้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
คำแนะนำในการใช้ War Bonds
เรื่องนี้สำคัญมาก จึงต้องขอแนะนำสักเล็กน้อย
1. อย่าใช้ Refill เพราะไม่คุ้มเลยสักนิด
2. อย่ารีบซื้อการ์ด Promotion ให้สะสมจนกว่าจะครบ 60 WB
3. สะสมครบ 60 WB แล้วนำไปสมัคร Elite มันจะให้ 120 WB กลับมา จากนั้นค่อยเอาไปชอปปิ้งตามใจชอบ(?)
การใช้ WB หลังจากสมัคร Elite
มีสองทางเลือกคือ
1. ซื้อซอง Nexus : จะได้การ์ดมาหลายใบ และมีโอกาสได้การ์ดระดับ Exceptional แต่ ไม่รู้ว่าจะได้การ์ดอะไรมาบ้างเนี่ยสิ
2. ซื้อการ์ดจาก Elite ในร้านค้า : ได้การ์ดที่ต้องการแน่นอน แต่ได้แค่ใบเดียว ในราคาเท่าๆกับซอง Nexus
ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละท่านครับ
โดยส่วนตัว จากที่เล่นมานานพบว่า การ์ดใบที่ควรหาเอาไว้ คือ
commander Yurich ซึ่งมีความสามารถในการ Heal All Raider (1 ใบ)
assault Colossus ร่าย 3 ตี 2 เลือด 5 สกิล Evade และ Counter 2 (4-5 ใบ)
ซึ่งการ์ดกลุ่มนี้สามารถนำมาใช้สร้างเด็คกันบ้านได้เป็นอย่างดี โดยใช้ร่วมกับการ์ด Structure หรือ Action
สาเหตุก็เพราะ Colossus เป็นตัว Counter ที่มีความอึด และดันมีสกิล Evade
ทั้งๆที่วิธีรับมือพวก Counter คือการใช้ Strike แต่มันดันหลบได้ซะนี่ แล้วดันมีฮีลจาก Yurich อีก = _=)"
คำแนะนำสำหรับผู้เริ่มต้น
เพื่อให้สามารถเติบโตได้ไวเหมือนใช้ยาเร่ง จึงมีข้อแนะนำนิดหน่อยครับ
คือ เมื่อเก็บเงินได้ถึงประมาณ 1,000 -2,000 gold แล้ว
ให้ไปที่ Arena แล้วสู้จน Rating เพิ่มถึง 100 จากนั้นก็ไปที่ร้านค้าตรงห้อง Reward แล้วซื้อ Sawblade มาสัก 8-10 ตัว
จากนั้นจัดเด็คที่ใส่เฉพาะ Sawblade และอาจเติมการ์ดสนับสนุนเฉพาะทางลงไป เช่น Strike Raider หรือ Strike Bloodthirsty
เพียงเท่านี้ก็สามารถลุย Mission ในช่วงแรกได้อย่างสบายๆครับ
เพราะเผ่า Raider มันเน้น Armored แต่ Sawblade นั้นร่ายเร็วมาก และ Pierce ได้รุนแรงมาก
แต่ถ้าเจอเผ่า Bloodthirsty ก็อาจต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เล็กน้อย
Mission ที่หาเงินได้คล่องที่สุด ก็คือ Mission 33 ซึ่งมีแต่ Raider ล้วนๆ
แถม HP ของทหารแต่ละตัวคือ 1 , 2 , 4 , 6 ซึ่งเทียบกับเวลาร่ายแล้ว = ถูก Sawblade ฆ่าตายก่อนพอดี
แต่ถ้าโชคร้าย เจอตัวบินตั้งแต่แรก แล้วอัดมันไม่โดนสักที ก็อาจจะแพ้ได้ครับ
อืม... โดยทั่วไปก็ค่อนข้างครบครันแล้ว
ที่เหลือก็ต้องลองเล่นเองแล้วล่ะครับ ^ ^)
ทีนี้ก็มาถึงจุดประสงค์ที่สองของบทความนี้ครับ งิงิ ' w')~
Admin- Admin
- Posts : 1399
Join date : 22/05/2009
Age : 33
game
Troops: 999999999999
WW troops: 999
Population: 999
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ